ถ้าอยากแบ่งเค้กก้อนใหญ่ ก็ต้องตามเทรนด์ให้ทันก่อน!

"ธุรกิจการท่องเที่ยว" ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเนื้อหอมที่นักลงทุนทั่วโลกพร้อมจะกระโจนมาลงสนาม โดยเฉพาะกับประเทศไทยที่ติดอันดับต้นๆ จุดหมายปลายทางในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก จนปี 2019 เองมีมูลค่าอุตสาหกรรมฯ สูงถึง 2.47 ล้านล้านบาท ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอีกสมรภูมิธุรกิจที่ค่อนข้างหวือหวาและท้าทาย

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นเก่าหรือผู้เล่นใหม่ หากคิดจะอยู่ในสนามธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว ต้องปรับตัวให้ไวอยู่เสมอ เพราะเผลอแป๊บเดียวพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป วันนี้ NIA จึงชวนทุกคนไปเจาะอินไซท์นักเดินทางปี 2020 เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าปีหน้าจะมีอะไรให้ตื่นเต้นบ้าง!

คงไม่สนุก หากไปเที่ยวแล้วต้องต่อแถวยืดยาวไปซะทุกอย่าง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้นักท่องเที่ยวเกินกว่าครึ่ง เลือกปรับเปลี่ยนแผนจากเมืองดังขึ้นชื่อ แล้วหันไปเที่ยวเมืองรองที่ไม่ค่อยพลุกพล่านมาก โดยกว่า 60% ยังชอบเลือกใช้เว็บไซต์หรือแอปฯ ที่เสนอ Local Trip อีกด้วย ถึงคราว 55 จังหวัดเมืองรองทั่วไทย เตรียมบูมยิ่งกว่าเดิมเป็นแน่

นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญกับเรื่อง “การกิน” มาเป็นอันดับหนึ่ง ถึงขนาดตัดสินใจเดินทางหรือยกเลิกทริปจากเพียงผลการจองร้านอาหาร ซึ่งไม่ใช่แค่ร้านอาหารหรูชั้นนำที่ต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน แต่สำหรับ “สายกิน” แล้ว ร้านอาหารวัตถุดิบท้องถิ่นสุด Local ก็เป็นสิ่งที่ตามหา

จะเที่ยวจะกิน จะเลี้ยวไปทางไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปสำหรับนักเดินทาง เพราะด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโลกไว้ใกล้แค่ปลายนิ้วสัมผัส ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกัน "สมาร์ทโฟน" เป็นไม้ตายคู่ใจสำหรับทุกการเดินทาง โดยเฉพาะแอปฯ ที่รวบรวมเรื่องต้องรู้สำหรับขาลุย อย่างเรื่องเส้นทาง สภาพอากาศ จุดท่องเที่ยว กิจกรรม และร้านอาหารคาเฟ่แนะนำ มาไว้ในที่เดียวกัน โดยไม่ต้องเลื่อนหน้าจอไปมาให้เสียเวลา

แม้หนึ่งวันจะหมุนไปเร็ว แต่พฤติกรรมนักเดินทางปี 2020 กลับสวนกระแส เพราะ Booking.com พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า กว่าครึ่งของคนเดินทาง มักเลือกเส้นทางและระบบขนส่งที่ใช้เวลานาน เช่น รถไฟ รถราง หรือเรือ ฯลฯ เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ Slow Life ระหว่างการเดิน รวมถึงเส้นทางธรรมชาติ หรือเส้นทางประวัติศาสตร์ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติก็ตาม

เป็นเรื่องใหญ่กับเจ้า “สัตว์เลี้ยง” ที่คุณเจ้าของทั้งรักทั้งหวง จนต้องกระเตงน้องไปเที่ยวด้วยทุกครั้ง โดยพบสถิติสูงถึง 42% ที่เจ้าของ มักวางแผนท่องเที่ยวของตัวเองโดยคำนึงถึงสถานที่ที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงไปได้ก่อน ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้มีกำลังทรัพย์มาก และมักยอมจ่ายมากขึ้น เพียงแค่ให้สัตว์เลี้ยงของตนสะดวกสบาย ถึงขนาดในต่างประเทศเอง มีธุรกิจที่พักซึ่งบริการเตียงน้องสุนัข สปาน้องแมว หรือกระทั่งคาเฟ่สัตว์เลี้ยงแบบ 5 ดาว เลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบเดินทางเท่านั้น แต่ปี 2020 จะเป็นปีที่คนสูงวัยเองไฟแรงกับการเที่ยวเช่นเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า สามในสี่ของผู้สูงอายุชอบที่จะเดินทางกับลูกหลาน เพราะนอกจากจะได้ใช้เวลากับครอบครัวแล้ว ยังรู้สึกว่าตัวเองอายุเด็กลงมาอีกนิดนึงเสียด้วย งานนี้คงเป็นการบ้านที่ท้าทายให้กับธุรกิจท่องเที่ยวสมัยใหม่ไม่น้อย ที่จะต้องออกแบบบริการให้ตอบโจทย์คนต่างเจนเนอเรชั่นไปพร้อมกัน